Canalblog
Editer l'article Suivre ce blog Administration + Créer mon blog
Publicité
* My Blog *
Publicité
* My Blog *
Archives
26 novembre 2005

กลับมาแล้วจ้า....

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์อัพบล็อกซะที หลังจากโดนราหูอมไปอยู่เกือบสองอาทิตย์ -_-"

เป็นสองอาทิตย์ที่ สุด Teen สุดๆๆๆๆๆๆ เพราะทำไรก็ไม่ขึ้น ฮ่าๆๆๆๆ เริ่มจากวันทีคุณนายแม่ปิ๊กบ้าน พอส่งชีเสร็จ เราก็กลับมานั่งอัพบล็อก บรรยายความรู้สึกสองเดือนที่ได้อยู่กะคุณแม่สุดที่ร้ากกกก เป็นต้นว่า ทำไมไม่เอาเสื้อผ้าที่ใส่วันสุดท้ายกลับไปซักเมืองไทยยะ ทำแหนมทั้งที ทำแค่สองถุงเอง กินสองวันก็หมด ฯลฯ บรรยายเสร็จได้เรื่องค่ะ คงจะสืบเนื่องมาจากความทรพีนี่เอง ที่ทำให้เผลอไปกดปิด โดยมิได้พับบลิช นังโง่ ....จึ้กเดียวจิงๆ แต่เป็นจึ้กเดียวที่ทำเอาอารมณ์บูดไปทั้งวัน หมดอารมณ์อย่างแรง จากเหตุการณ์ครั้งนี้เลยตัดสินใจหันหลังให้การอัพบล็อกไปชั่วคราว...

อานิสงค์จากการไปส่งคุณหญิงแม่ก็คือได้แวะไปไชนาทาวน์ซื้อผักบุ้งที่มอนทรีอัล ไปทั้งทีก็ซื้อมาสองกำบิ๊กๆกะว่ากินให้มันออกจมูกเลยละกัน อืม..เย็นวันจันทร์ที่ 14 รีบกลับจากมหาลัยกะว่าวันนี้จะกลับไปฟาดผักบุ้งไฟแดงฉลองแม่กลับ เริ่มจากล้างผักบุ้ง หั่นอย่างปราณีต สับกระเทียม ตั้งไฟและน้ำมันรอ ตีพริก เพราะชอบแบบแซ่บๆ น้ำมันร้อนแล้ว..เอาเต้าเจี้ยวโบ๊ะหน้าผักบุ้ง โห มืออาชีพจิงๆ ว่าแล้วก็เอาผักบุ้งใส่กระทะ แต่...นังโง่ อีกรอบ ดันลืมสะเด็ดน้ำออกจากผักบุ้ง แป๊ะๆๆๆฉ่า อีเต้าเจี้ยว และน้ำมันที่กะลังร้อนระอุ กระเด็นขึ้นมาอยู่บนแขนเดี๊ยน แรกๆก็ยังชาอยู่ เลยแข็งใจผัดต่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (คือจิงๆไม่อยากยอมรับความบื้อของตัวเอง) สรุปเย็นนั้นก็กินด้วยอาการซังกะตาย เป็นการกินผักบุ้งไฟแดง เคล้ากลิ่นยาสีฟันที่โบ๊ะแผลพุพอง เป็นหนอง ผิวหนังอักเสบเป็นหนอง...จากเย็นนั้นผักบุ้งที่เหลือเลยโดนแปรรูปไปทำสุกี้แทน...จบเรื่องผักบุ้งอย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง

ปล.ก่อนจะโดนน้ำมันกระเด็นใส่ ตอนทำการทดลองเราก็เอ๋อเซอะ โดนไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์กระเด็นใส่แขน ปวดแสบปวดร้อนมาก่อนแล้ว สรุป ตอนนี้แขนซ้ายชั้นกลายเป็นนังด่างไปเรียบร้อยแล้ว

วันที่ 15 ฝนตกระหน่ำ ทิ้งทวนก่อนหิมะจะลง เย็นนั้นกลับบ้านด้วยอาการหัวซุกหัวซุน...หนีฝน เห็นหลังคาบ้านไวๆ ดีใจเป็นล้นพ้น ถึงที่หลบภัยซะที เปิดประตูพัวะเข้าไป โอ้ว แม่เจ้า วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองเต็มตลิ่ง บ้านน้ำท่วมเจ้าค่า... อยากจะกรี๊ด กรี๊ด และ กรี๊ดดดดดดดดดด แต่เนื่องจากคนที่นี่เค้าอยู่กันอย่างสงบมาก หากกรี๊ดไปเพื่อนบ้านคงโทรไปแจ้งตำรวจเลยทำได้แค่สวมวิญญาณแจ๋ว คว้าถัง คว้าไม้ถูพื้นมาถูๆ ฮ่าๆๆๆๆ แล้วในที่สุดก็ได้สัมผัสชีวิตคนบ้านหลังคารั่วกำไรๆๆๆ แล้วถังขยะทุกใบในบ้านก็ถูกนำมาใช้เป็นที่ลองน้ำฝน คืนนั้นหลับสบายมากกก ไม่ต้องนับแกะ นับเสียงแปะๆๆๆๆๆของน้ำหยดลงถังแทน... ปล.วันนี้แผลที่แขนมันพองขึ้นมาแล้วข้างในมีน้ำใสๆ เต่งๆน่าเจาะให้แตกมาก....

เช้าวันที่ 16 โทรไปบอกลุงคนซ่อมบ้าน ให้มาดูอาการหลังคาด่วน ลุงใจดีมากบอกจะมาทันที บอกลุงว่าไม่ต้องมาทันทีเพราะว่าต้องไปเรียน ลุงสวนกลับมาทันทีว่าชั้นจะขึ้นหลังคาเฟ้ย ไม่ได้เข้าบ้านเธอ แถมท้ายด้วยการด่าว่าอีนี่ช่างโง่อยู่ในใจ .... วันนี้ฝนกลายสภาพมาเป็นหิมะแล้ว ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเพราะอุณหภูมิขนาดนี้ ทุกอย่างแข็งไปหมด อย่างน้อยถึงอีตาลุงซ่อมไม่ดีก็คงไม่หยดละวะ ตอนเย็นเปิดประตูเข้าบ้าน อ้า ใจมาเป็นกอง บ้านอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีแต่ถังและถังขยะก็ยังอยู่ที่เดิม ..กันเหนียว.... ซักสี่ทุ่มกว่า เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากตรากตรำทำงานในห้องแล็บมาทั้งวัน แปะ...อุ๊ย สงสัยหูฝาด หูแว่ว เนื่องด้วยอารมณ์ค้างจากเหตุการณ์คืนก่อน แปะๆ คราวนี้มาคู่วุ้ย สองแปะ เปิดไฟไปดูอาการหน่อยละกัน ฮ่าๆๆๆๆๆ หิมะนรกมันละลาย เคืองลุงอย่างแรง กะว่าพรุ่งนี้ก่อนเฮอะแม่จะโทรไปเฉ่ง... แล้วก็เข้านอนพร้อมเสียงดนตรีหยดน้ำไปอีกหนึ่งคืน....ปล.เล่นกะเพื่อน อีคนที่ห้ามเราเจาะแผลน่ะแหละ มันทำแผลเราแตกซะเอง น้ำเหลืองเยิ้มเรอะเสื้อ เสียดายเสื้อเป็นที่สุด

17 พ.ย. ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงติ๋งๆ วิ่งออกมาดู เกือบไม่ทัน น้ำเกือบล้นถังไปสองถัง เดี๋ยวสายอีกหน่อยจะโทรหาลุง .... โทรหาลุง ลุงบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็ร่ายยาวเรื่องกรรมวิธีการซ่อม เข้าใจอยู่ประโยคเดียวคือ เมื่อวานน็อตที่เตรียมไปใช้ไม่ได้ เดี๋ยววันนี้จะเตรียมน็อตแบบใหม่ไปขันปิด คราวนี้ไม่รั่วแล้ว... เออ ก็สุดแท้แต่ลุงละกัน บ่นมากเดี๋ยวลุงให้ปีนเองซวยเลย

18 พ.ย. เย้ วันศุกร์แล้วดีใจจัง วันนี้ทำงานเหนื่อยคืนนี้มีหนังดีจะกลับไปดู...กลับถึงบ้านเปิดทีวี เคเบิ้ลหายไปเกิดอะไรขึ้น (อีกแล้ววะ) เช็คทุกสายเสียบเรียบร้อยดี โทรไปที่บริษัทถามว่าเกิดเหตุขัดแข้ง เอ๊ย ขัดข้องอะไรรึเปล่า อีเจ๊ที่รับสายถามเลขสมาชิกแล้วหายไปห้านาที ไอ้เราก็รออย่างมีความหวัง อีเจ๊คนเดิมกลับมาขอพูดกับเจ้าของชื่อที่เปิดใช้บริการ เราอธิบายไปว่าเค้าหนีหนาวไปอยู่ฟลอริดา อีกห้าเดือนจะกลับมา อีเจ๊ทำเสียงเศร้าเสียใจสุดฤทธิ์บอกว่าถ้างั้นก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะว่าถือว่าเป็นความรับบริษัท เก๋าเจ้ง!! เลยเปลี่ยนเบอร์โทร คราวนี้ได้คุยกะผู้ชาย เค้าตกปากรับคำจะส่งช่างมาดูในวันจันทร์เพราะคิวช่างเต็มเอี๊ยดแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ เฮ้อ....พระศุกร์เข้าจิงๆ

วันนี้วันเสาร์ (โชคดีพระเสาร์ไม่แทรก) ไม่มีอะไรจะทำให้ชั้นสะดุ้งสะเทือนได้อีกแล้ว อ้อ นิดนึง อีแผลพุพองมันเริ่มคันยุบยิบแล้ว แต่เกาไม่ได้ เดี๋ยวจะมีตำหนิ วันนี้ก็เลยอ่านหนังสือเตรียมสอบในวันศุกร์หน้า แล้วก็เมาท์กะบรรดามิตรรักแฟนเพลง

วันจันทร์แล้ว ทำงานเพลินลืมช่างไปเลย ถ้างั้นก็ช่างมันแล้วกันวะ ว่ากันหลังสอบ ... อังคาร พุธ เหตุการณ์ปกติดี ความซวยไปเยือนคนอื่นแล้ว หุๆๆๆๆ

วันพฤหัสที่ 24 ตื่นมาพร้อมกะอาการไฟลนก้น ก็เหลืออีกบทกว่าๆยังไม่จบ บทใหญ่ซะด้วย โอย เครียดๆๆๆๆ เครียดมากอ่านไม่รู้เรื่อง ตั้งสติได้อ่านต่อไปเรื่อยๆ หกโมงกว่าๆ เย้ๆๆๆ ในที่สุดก็จบ คืนนี้จะนอนแต่หัววัน พรุ่งนี้จะเอาหัวสมองอันปลอดโปร่งไปทำข้อสอบ  เข้านอนเกือบเที่ยงคืน ตื่นอีกทีตีหนึ่งกว่าๆ เพราะเสียงรถโกยหิมะ หิมะเยอะมาก มันโกยยันตีสี่...ตีห้าเริ่มหลับใหม่ ตกกะใจตื่นอีกทีเจ็ดโมงกว่านึกว่าวันเสาร์ที่เรียนแปดโมง ลุกพรวดพราดไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างฉี่อยู่ก็ได้สติ สงสัยพักนี้ข้าวที่กินๆไปมันจะไปเลี้ยงส่วนอื่นหมด เลยเผื่อแผ่ไปยังสมองน้อยมาก โง่เป็นรอบที่แสนเจ็ดในรอบสัปดาห์...

25-26 พ.ย. สอบเสร็จแล้น ลัล ลัล ล้า คืนนี้แม่จะนอนไม่เลี้ยง แล้วมันก็กลับมาไอ้รถโกยหิมะมหาประลัย วันนี้มันพาพวกมาเพิ่มอีกสาม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ก็ดีไม่เป็นไร เลยได้ฤกษ์อัพบล็อกไปในตัว นี่จะหกโมงเช้าแล้ว คงไม่นอนแล้ว เดี๋ยวมีเรียนตอนแปดโมงกว่า...แล้วคืนนี้แน่จริงกลับมาอีกนะ ฮ่าๆๆๆไม่ได้นอนสองคืนติด อีช่วงๆมาเห็นตอนนี้คงนึกว่าเราเป็นหลินหุ้ยแน่ๆ (แพนด้าที่เชียงใหม่น่ะ)

Publicité
Publicité
Commentaires
Publicité